วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

โครงงาน

การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ

ผู้ทำโครงงาน

                                    1.เด็กหญิงจิราพัชร           สุดหนองบัว     ม.3/1      เลขที่ 9

                                    2.เด็กหญิงธนาพร             ศรีดี                   ม.3/1      เลขที่ 10

                                    3.เด็กหญิงธัญญารัตน      สีโห้มี                 ม.3/1      เลขที่ 14

                                    4.เด็กหญิงพรรณอร          ชวนทอง           ม.3/1      เลขที่ 16 

นาย ธีรพล      คงมีผล

คุณครูที่ปรึกษา

โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์  ง.23104

ประจำปีการศึกษาที่

โรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยชนะสงคราม    จ.ตาก



บทคัดย่อ
       "สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ"  นี้เป็นโครงงานพัฒนาสื่่อเพื่อการศึกษา (Education medioa  development)
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อศึกษาซึ่งผู้จัดทำจะใช้เว็บไซต์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง " สถานที่ท่องเที่ยว" เป็น   เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย  โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกอบข่าวสาร  การเเสดงความคิดเห็นการเผยเเพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี ข่าวปัจจุบัน

กิตติกรรมประกาศ

โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งของ  อาจารย์ ธีรพล คงมีพล  อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้ให้คำเเนะนำ เเละข้อคิดเห็นต่างๆมาโดยตลอด เเละขอขอบคุณ เเละขอขอบใจเพื่อนๆของผู้จัดทำโครงงาน ที่คอยให้กำลังใจเเละถามไถ่ความเป็นไปของโครงงานอยู่เสมอทำให้ผู้จัดทำมีกำลังใจที่จะพัฒนาโครงงานจนทำสำเร็จได้   ผู้จัดทำโครงงานขอขอบคุณ  ณ  ที่นี้

สารบัญ
                   บทที่1 บทนำ                                                                                              หน้า 1
                   บทที่2 สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ                                                              หน้า 2-35
                            2.2 สร้างเว็บบล็อก(Blogger)                                                             หน้า 35-38
                   บทที่3 วิธีการดำเนินการ                                                                             หน้า 39
                   บทที่4 ผลการดำเนินการ                                                                             หน้า 40
                   บทที่5 สรุปผลและข้อนำเสนอแนะ                                                             หน้า 41

                   

บทที่1
บทนำ
1. เเนวคิดที่มาของโครงงาน
        เทคโนโลยีทางการสื่อสาร  เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันเริ่มมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของม นุษย์เเละมีส่วนช่วยในการสนับสนุนสื่อทางการศึกษาอีกด้วยโดยสื่อสมัยใหม่นิยมเป็น สื่อการเรียนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  เพราะสดวกรวดเร็วเเละเข้าใจง่าย
        สถานที่ท่องเทียวในประเทศไทยมีหลายภาค ยกตัวอย่างเช่น ภาคเหนือมีทุ่งดอกบัวตองมีอยู่ที่
จังหวัดเเม่ฮ่องสอน จะพบได้ใน ฤดูหนาว ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ อยู่ตำบลแม่อูคอ ตามทางหลวงหมายเลข 108 สายแม่ฮ่องสอน-ขุนยวม ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 1263 เข้าสู่ทุ่งบัวตองอีก 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1,000 ไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ดอกบัวตองจะบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามมากบริเวณจุดขึ้นดอยจะมีร้านค้าริมทาง ซึ่งจะมีเฉพาะช่วงที่ดอกบัวตองบานเท่านั้น เมื่อเดินทางขึ้นไปยังยอดดอยแม่อูคอแล้ว จะมีศาลาชมวิว และสามารถชมดอกบัวตองได้ตลอด 360 องศาแหล่งดอกบัวตองในจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นมีอยู่ 2 แห่ง คือที่ดอยแม่อูคอ และอีกแห่งที่ดอยแม่เหาะ อ.แม่สะเรียง แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปที่ดอยแม่อูคอ เพราะมีทุ่งบัวตองที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ
2.2 เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2.3 เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป               
 3.ขอบเขตของโครงงาน
3.1      ศึกษาเพื่อที่จะเป็นแนวทางการท่องเที่ยว
3.2      ศึกษาสถานที่และความสำคัญของสถานที่นั้น
3.3      เพื่อศึกษาโรคที่มาพร้อมกับโรคความอ้วน
3.4      ศึกษาวิธีการป้องกัน และรักษาการเกิดโรคความอ้วน



บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่แต่ละที่ย่อมมีความหมายและเอกลักษณ์เป็นโดดเด่นบางที่อาจจะมีประวัตที่น่าสนใจแตกต่างกันไปเช่นที่ภาคเหนือที่จะมีประวัตเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานและประวัตของการลบมาก่อนดังนั้นจึงทำให้สถานที่แต่ละที่น่าสนใจต่างกันไปเช่นภาคเหนือ
  
1.จังหวัดลำพูน    วัดพระพุทธบาทตากผ้า  




วัดนี้เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน บนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์ ซึ่งเป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาค 469 ขั้น เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยกับวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย ปัจจุบันสามารถนำรถขึ้นไปได้ เมื่อถึงวันอัฐมีบูชา แรม 8 ค่ำ เดือนแปด ซึ่งเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่วัดมีประเพณีสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 0 5357 2961, 0 5300 5200 หรือเว็บไซต์ phrabat.com การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 106 บริเวณกิโลเมตรที่ 136-137 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง




         อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า มีทิวเขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญ คือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ป่าตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำปิงตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีเนื้อที่ประมาณ 627,346 ไร่ หรือ 1,003.7536 ตารางกิโลเมตร โดยมียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อ "ดอนห้วยหลาว" อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสูงประมาณ 1,334 เมตรจากระดับน้ำ

2.จังหวัดแม่ห้องสอน  อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


            ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังสามารถมองเห็นดอยเชียงดาว และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ซึ่งทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงดงามมาก จนได้รับการโหวตให้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวคุณจะได้พบกับดอกไม้ที่กำลังจะเบ่งบานนับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามไม่สามารถหาที่ใดเปรียบได้ มากกว่านั้นอยากแนะนำให้แวะ พระตำหนักเอื้องเงิน ชมไม้เมืองหนาวหลากสีสัน หรือจะไป ดอยช้าง เพื่อดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และไป น้ำตกห้วยน้ำดัง น้ำตกแม่เย็น ให้ชุ่มฉ่ำปอดก่อนกลับบ้านกันด้วย


วัดพระธาตุดอยกองมู



ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "วัดปลายดอย" เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบไปด้วยพระธาตุเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ 2 องค์ และวิหารพระศิลปะไทใหญ่ เจดีย์องค์พี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไต ภายในบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า ส่วนองค์น้องสร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนท่านแรก ฐานเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดปางต่าง ๆ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน นอกจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมสูงที่สุด นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยทีเดียว  



3.สุโขทัย   วัดช้างล้อม
เป็นโบราณสถานที่สำคัญ มีเจดีย์ทรงกลมแบบลังกาเป็นประธานของวัด รอบฐานเจดีย์ประดับด้วย ปูนปั้นเป็นรูปช้างโผล่ครึ่งตัว ด้านหน้ามีฐานวิหารก่อด้วยอิฐ และยังมีฐานกำแพงแก้วก่อด้วยอิฐล้อมรอบ


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง



ตั้งอยู่ทางด้านขวาของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นที่รวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีภายในเมืองสุโขทัยและที่ประชาชนมอบให้ ได้รับรางวัลดีเด่น รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ ๗ ประจำปี ๒๕๕๑ ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมภาคเหนือ
พิพิธภัณฑ์แบ่งส่วนการแสดงเป็น 3 ส่วน คือ
1.  อาคารลายสือไท 700 ปี  เป็นอาคารใหม่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าอาคารใหญ่ เป็นที่จัดแสดงศิลปะวัตถุสมัยสุโขทัย อาทิ พระพุทธรูป เครื่องใช้ ถ้วยชาม เครื่องสังคโลก และศิลาจารึก
2.  อาคารพิพิธภัณฑ์  แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่ได้จากการสำรวจ ขุดค้น ขุดแต่ง และบูรณะแหล่งโบราณคดีสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร และ ชั้นบน จัดแสดงศิลาจารึกสมัยสุโขทัย พระพุทธรูปสำริด เทวรูป โอ่งสังคโลก เครื่องศาสตราวุธ เครื่องถ้วยชามสังคโลก เงินตรา ท่อน้ำและแสดงระบบชลประทานสมัยสุโขทัย 
3.  พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง  อยู่ด้านนอกโดยรอบอาคารใหญ่ เป็นที่จัดแสดงศิลปะวัตถุต่าง ๆ อาทิ พระพุทธรูปศิลา  แผ่นจำหลัก อาคารทรงไทยแบบต่าง ๆ เตาทุเรียงจำลอง และเสมาธรรมจักรศิลา เป็นต้น



4.จังหวัดนครสวรรค์  เขาหน่อ เขาแก้ว นครสวรรค์



เขาหน่อเป็นเขาหินปูนที่มีวัดเขาหน่อ มีบันไดขึ้นสู่ยอดเขาซึ่งเป็นจุดชมวิว ระหว่างท่ามีถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าอยู่หัวราชกาลที่5เสด็จภาคเหนือทางชลมารคสายแม่น้ำปิง เคยทรงปะทับพักแรมที่นี่ ต่อมาจังหวัดได้สร้างพระบรมรูปไว้เป็นอนุสรณ์ บริเวณเชิงเขาจะมีฦงลิงจำนวนมากคอยรับอาหารจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

บึงบอระเพ็ด


ของ บึงบอระเพ็ดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยและเป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ 132,737 ไร่ อยู่ในท้องที่สามอำเภอของจังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ กลางบึงมีตำหนักแพที่สร้างขึ้นครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน เดิมบึงบอระเพ็ดแห่งนี้มีชื่อว่า "ทะเลเหนือ"หรือ "จอมบึง" เนื่องจากมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจระเข้ จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่ประมาณ 148 ชนิด พืช 44 ชนิด มีพันธุ์สัตว์ที่หายากได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสรินธร (พบครั้งแรกที่บึงบอระเพ็ด) ปลาเสือตอ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะมีนกเป็ดน้ำอพยพมาที่บึงแห่งนี้เป็นจำนวนมาก พื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า


5.จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวง



          วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ตัววัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผัง และส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และ อุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์



ชมเมืองลำปางบนรถม้า






เส้นทางรอบเมืองเล็ก  ขึ้นที่ศาลากลางเก่ารถจะเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกเข้าถนนทิพย์ช้าง สองฟากถนนมีร้านค้าที่เป็นตึกแถวเก่าๆ ให้ชมก่อนจะเลี้ยวซ้ายที่สามแยกการไฟ ฟ้าฯจะเห็นแม่น้ำวังไหลขนานไปกับถนนทางด้านขวา ผ่านห้าแยกหอนาฬิกา ซึ่งเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของเมืองนักท่องเที่ยวมักถ่ายภาพคู่กับรถม้า เป็นที่ระลึกกันที่จุดนี้ จากนั้นรถม้าจะพาเข้าถนนบุญวาทย์อันเป็นย่านใจกลางธุรกิจการค้า ตึกแถวสองฟากเป็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ และมาสิ้นสุดตรงจุดเดิม ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีที่ลำขึ้นที่ศาลากลางเก่าเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางรถม้ารอบเมือง เล็กไปจนถึง สามแยกการไฟฟ้าฯ แต่ไม่เลี้ยวซ้ายไปหอนาฬิกาจะตรงไปตามถนนวังขวาเลียบแม่น้ำวัง ผ่านบ้านไม้เก่าชื่อบ้านเก่าทางด้านซ้ายมือ ผ่านสวนสาธารณะเขลางนคร เลี้ยวซ้ายข้างสวนมาผ่านย่านตลาดอัศวินซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่ คึกคักบนถนนท่าคร่าวน้อย ผ่านห้าแยกหอนาฬิกาเข้าถนนบุญวาทย์ สิ้นสุดทางที่จุดเดิม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ราคา 200 บาทหากเช่าเป็นชั่วโมง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางชมเมืองได้ตามความต้องการ เช่น ข้ามแม่น้ำวังบนสะพาน ชมบ้านเสานัก ชมวัดพระแก้วดอนเต้า และวัดต่างๆ และนมัสการหลวงพ่อเกษม ราคา 300 บาทเขาเป็นสมาคมรถม้าดูแล ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เรียกราคาตามใจชอบ รถม้าจะจอดเป็นจุดๆ 10 จุด



 6. จังหวัดแพร่ พระธาตุช่อแฮ






               วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1879-1881 ในสมัยพระมหาธรรมราชาธิราช ( ลิไท ) โดยขุนลัวะอ้ายก๊อม พระธาตุช่อแฮเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ พระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะเชียงแสน สูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร สร้างด้วยอิฐโบกปูน หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ลงรักปิดทอง สำหรับชื่อพระธาตุช่อแฮนั้น บ้างว่าได้มาจากชื่อ ผ้าแพรชั้นดี ซึ่งทอจากสิบสองปันนาและชาวบ้านนำมาผูกบูชาพระธาตุ บ้างก็ว่ามาจาก ผ้าแพรที่ขุนลัวะอ้ายก๊อมนำมาถวาย ทุกปีจะมี งานนมัสการพระธาตุ ในวันขึ้น 9 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี 


วนอุทยานแห่งชาติแพะเมืองผี


วนอุทยานแพะเมืองผี เมื่อครั้งในอดีตกาลนานมาแล้ว ชาวบ้านขนานนามว่า เป็น แพะเมืองผี ไม่มีผู้ใดทราบประวัติเป็นที่แน่นอนแต่ได้เล่าสืบทอดกันมาว่าแต่ก่อนบริเวณป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์มีพันธ์ไม้ใหญ่ขึ้นอยู่หนาแน่นและสัตว์ป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมากในสมัยนั้นมีครูบาเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำชำตำบลน้ำชำซึ่งชาวบ้านได้พร้อมใจกันนิมนต์มาเป็นเจ้า-อาวาสองค์แรกของวัดน้ำชำและได้บอกเล่าประวัติแพะเมืองผีสืบทอดติดต่อกันมาว่า มีหญิงชราคนหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ย่าสุ่ม เข้าไปหาผัก หน่อไม้ เป็นอาหาร แต่หลงป่าแล้วไปพบหลุมเงินทองคำจึงได้นำเงินและทองคำใส่ถุงแล้วเตรียมหาบจะกลับบ้านเสร็จแล้วเกิดหลงป่าอีกโดยไม่สามารถนำเอาหาบเงิน ทองคำ ออกมาได้ ย่าสุ่มจึงวางหาบจะกลับบ้านเสร็จแล้วเกิดหลงป่าอีก โดยไม่สามารถนำเอาหาบเงิน คำ ออกมาได้ ย่าสุ่มจึงวางหาบแล้วหาไม้มาคาดเป็นราว (ราวไม้) ต่อมาออกจากป่าจนถึงบ้านและเดินกลับไปราวไม้ที่คาดไว้เป็นแนวทางไว้ ซึ่งปัจจุบันเป็นร่องทางน้ำพบเห็นได้ เป็นแนวออกไปทางบ้านน้ำชำทิศตะวันออกของแพะเมืองผี ย่าสุ่ม จึงได้ชักชวนชาวบ้านให้เข้าไปด้วยปรากฏว่า ชาวบ้านก็ได้ติดตามย่าสุ่มเข้าไปถึงจุดที่ย่าสุ่มวางหาบไว้แต่ไม่พบเงินและทองคำในหาบแต่อย่าใดไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไรชาวบ้านจึงขนานนามสถานที่นั้นว่า แพะย่าสุ่มคาดราว และได้ช่วยกันค้นหา พบรอยเท้าคนเดิน ย่าสุ่ม และชาวบ้านได้เดินตามรอยเท้าเหล่านั้นไปจนกระทั่งมาถึงพื้นที่ซึ่งชาวบ้านขนานนามว่า แพะเมืองผี ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือคำว่า แพะ ในที่นี้หมายถึงป่าแพะนั่นเอง ส่วนคำว่าเมืองผี ก็เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันสืบมาในสมัยดึกดำบรรพ์ 




7.จังหวัดพิษณุโลก วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร






           พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง พระหัตถ์มีปลายนิ้วทั้งสี่เสมอกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเรียกว่า ทีฒงฺคุลี ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกร มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลาง และมีเทพอสุราคอยปกป้ององค์พระอยู่ 2 องค์ พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดบวรนิเวศวิหารตามลำดับ



อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง





ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 60 กม. สภาพพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ทางอุทยานฯ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอขาค้อ อำเภอหล่มสัก อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอวังทอง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีเนื้อที่ประมาณ 789,000 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 27พฤษภาคม 2518 ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นภูเขาคล้ายหลังเต่าสูง ๆ ต่ำ ๆ เป็นเทือกเขาหินปูนทอดเป็นแนวยาวมีจุดสูงสุดคือ บริเวณเขาแค เป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยเข็คใหญ่ และคลองวังทอง ฤดูฝนอยู่ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม และฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมากเหมาะแก่การไปท่องเที่ยว พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ต้นสองใบ มะม่วงป่า ประดู่ และทุ่งหญ้าที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่มีสนและไม้ดอกขึ้นสลับกันอยู่




8.จังหวัดกำแพงเพชร บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง




            ตามตำนานกล่าวว่า บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง แต่เดิมบริเวณบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้  มีลักษณะเป็นลุ่มน้ำขัง มีป่าโปร่งล้อมรอบสลับด้วยเนินเตี้ยๆ  พื้นดินบางแห่งมีหินโผล่ขึ้นเป็นกลุ่มน้อยใหญ่สลับกันตำนานเล่าว่าครั้งสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี  สมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จประพาสป่าล่าสัตว์มาถึงบริเวณบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้  วันหนึ่งพระองค์ทรงเห็นไก่ป่าตัวหนึ่งมีลักษณะสวยงามและมีเสียงขันไพเราะมาก  จึงทรงให้นายพรานที่ตามเสด็จ  ต่อไก่ป่าตัวนั้นและได้ไก่ป่าสมพระราชประสงค์  โดยมีไก่ป่าตัวอื่นๆ ติดไปด้วยเป็นจำนวนมาก ในวันนั้นพระองค์และนายพรานล่าสัตว์อื่นไม่ได้เลย จึงทรงให้ทหารนำไก่ป่าตัวอื่นๆอาหาร  พระองค์จึงทรงสาปน้ำที่อยู่ในบึงบริเวณใกล้ๆ ให้เป็นน้ำร้อน บึงดังกล่าวจึงเรียกว่าบึงพระร่วงสาป”  ต่อมา ภายหลังเรียกสั้นลงว่า  “บึงสาป”  และเป็นที่โจษขานกันว่าน้ำในบึงสาปนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ  เช่น  โรคปวดเมื่อยตามร่างกาย  โรคผิวหนังได้  จึงมีประชาชนในไปปรุงอาหารสำหรับเสวย  แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นป่า  ไม่มีบ้านเรือนราษฎร  จึงไม่มีไฟใช้ทำท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงพากันไปอาบ  ดื่ม  กิน  และบางรายนำน้ำกลับไปเพื่อเป็นสิริมงคล



วัดพระนอน




             โบราณสถานวัดพระนอนเป็นวัดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัดใช้ศิลาแลงแทบทั้งสิ้น หน้าวัดมีบ่อน้ำ ห้องน้ำ และศาลาพัก ภายในวัดตอนหน้าสุดเป็นฐานอุโบสถเสาแปดเหลี่ยม ถัดไปเป็นวิหารซึ่งเดิมประดิษฐานพระนอนเป็นประธาน เสาวิหารใช้ศิลาแลงแท่งเดียวตลอดที่มีขนาดสูงใหญ่ปักเรียงรายอยู่ภายในอาคาร โครงหลังคาเดิมเป็นเครื่องไม้ สังเกตได้จากช่องสี่เหลี่ยมตามหัวเสาที่ใช้สำหรับสอดหัวขื่อหัวคาน ผนังวิหารเรียงศิลาแลงเป็นผนังช่องลูกกรงหรือช่องลม ถัดจากฐานวิหารไปทางด้านหลังเป็นเจดีย์ประธานทรงระฆังฐานแปดเหลี่ยม




9.จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร




                วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์และเป็นวัดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากวัดหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,053 เมตร อยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่องค์พระเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า ดอยสุเทพ แต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของฤาษี มีนามว่า สุเทวะ เป็นภาษาบาลี มีความหมายว่า เทพเจ้าที่ดี ซึ่งตรงกับความหมายของคำว่า สุเทพ นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงได้ ชื่อว่า ดอยสุเทพ ซึ่งมาจากชื่อของฤๅษี คือสุเทวะฤาษี


อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย


                                 


           อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีพื้นที่ประมาณ 262.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 163,162.50 ไร่ ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่ริม อำเภอหางดง และอำเภอเมือง ประกอบด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่สูงสลับซับซ้อน ดอยที่สำคัญได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยบวกห้า และดอยปุย เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธาร ทั้งมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญทางศาสนา และทางประวัติศาสตร์สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มีหลากหลายประเภท กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ จุดท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ได้แก่ น้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกเล็กๆ สูงประมาณ 10 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี รอบๆ บริเวณสวยงามด้วยทิวทัศน์และร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางน้ำตกห้วยแก้ว วังบัวบาน และผาเงิบ เป็นแหล่งอาศัยของนกหลายชนิด เช่น นกกะรางหัวหงอก นกแซงแซวหางปลา นกเขาเขียว เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรับประทานอาหารและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติได้ในบริเวณนี้สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ เป็นพระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ระยะทางเพียง 4 กิโลเมตรจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมโดยรอบตำหนักและบริเวณภายนอก ซึ่งเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ เฟิร์น และไม้นานาพรรณสีสันแปลกตา โดยปกติแล้วจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ทั้งนี้จะต้องเป็นช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ซึ่งปกติจะปิดในช่วงเวลาตั้งแต่ประมาณกลางเดือนธันวาคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือเขต 1 (สำนักงานเชียงใหม่)ขึ้นมาถึงดอยสุเทพแล้ว ต้องไม่ลืมสักการะพระธาตุดอยสุเทพพระธาตุประจำปีมะแม ที่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนาแล้ว ที่นี่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่อย่างมาก นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่พลาดไม่ได้หากใครชอบท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดอยแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย นักท่องเที่ยวจะได้รับชมวิถีชีวิตของชาวเขาได้ที่พิพิธภัณฑ์ม้ง บ้านเรือนและสวนดอกไม้สวยงาม พร้อมแต่งชุดชาวเขาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพ ที่หมู่บ้านชาวเขาแห่งนี้ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ด้วยสีของพรรณไม้ และป่าเขาเบื้องล่าง นอกจากนี้ยังมีงานศิลปหัตถกรรมของชาวเขาหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย  



10.จังหวัดพะเยา ถนนดอกไม้




เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์จากอำเภอดอกคำใต้ไปจนถึงอำเภอจุน จังหวัดพะเยาจะเห็นดอกทองกวาวบานอยู่สองข้างทางในช่วงเวลาเช้าและเย็นของถนนเส้นนี้มีระยะทางราว 20 กิโลเมตรนับจากกิโลเมตรที่ 5 เป็นต้นไปเป็นถนนสายดอกไม้ที่บานสวยที่สุดและยังเป็นจุดชมวิวที่มีสีสันตระการตา    ดอกทองกวาว (Butea monosperma) มีสีแสดซึ่งมองเห็นเด่นชัดไปไกลสุดสายตา  การเดินทาง  จากจังหวัดพะเยา ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ1021 สู่ อำเภอดอกคำใต้แล้วมุ่งหน้าไปทางอำเภอจุน เลยอำเภอดอกคำใต้ไปราว 4 กิโลเมตรจะเริ่มมีต้นทองกวาวขึ้น เรียงรายสองข้างทางรวมระยะทางราว 20 กิโลเมตร


วัดพระธาตุจอมทอง


          วัดพระธาตุจอมทอง ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามวัดศรีโคมคำ มีทางรถยนต์ขี้นไปถึงยอดเขา เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปนมัสการเจดีย์พระธาตุจอมทองซึ่งเป็นปูชนียสถานโบราณคู่เมืองพะเยา บริเวณโดยรอบมีป่าไม้ปกคลุม เป็นสวนรุกขชาติมองเห็นตัวเมืองและกว๊านพะเยาได้โดยรอบ



11.จังหวัดตากวัดชุมพลคีรี



            วัดชุมพลคีรี ตั้งอยู่เลขที่ 616 ถนนอินทรคีรี ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ภายในประดิษฐานเจดีย์สร้างใหม่ซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองของพม่า ภายในโบสถ์ประดิษฐาน พระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ส่วนในวิหารเป็นที่เก็บกลองโบราณอายุกว่า 200 ปี ตามประวัติระบุว่า เจดีย์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2314 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดาองในพม่า เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทาสีขาว สูง 20 ม. ฐานย่อมุม องค์ระฆังประดับด้วยกระเบื้องและลวดลายสีทองไปจนจรดยอดเจดีย์ซึ่งเป็นยอดฉัตร มีเจดีย์รายขาดเล็กทาสีทอง 20 องค์ ล้อมรอบด้วยดำแพงแก้ว บริเวณใกล้เคียงมีวิหารซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นจำลองจากพระพุทธชินราช  วัดชุมพลคีรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือติดต่อกับลำห้วยแม่สอด ทิศใต้ติดต่อกับเหมืองสาธารณะ ทิศตะวันออกติดต่อกับที่ดินมีการครอบครอง ทิศตะวันตกติดต่อกับที่ดินเอกชน โดยมีโฉนดที่ดินเลขที่ 76 เป็นหลักฐานพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มมีลำห้วยแม่สอดอยู่ทางด้านทิศเหนือ สภาพแวดล้อมเป็นหมู่บ้านประชาชน อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี อุโบสกว้าง 25 เมตร ยาว 40 เมตร สร้างเมื่อพ.ศ. 2515 ศาลาการเปรียญกว้าง 24 เมตร ยาว 35 เมตร สร้าง พ.ศ. 2526   มีกุฏิสงฆ์ จำนวน 5 หลัง เป็นอาคารไม้ 3 หลัง ตึก 1 หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ 1 หลัง สำหรับปูชนียวัตถุมี พระประธานในอุโบสถปางมารวิชัยวัดชุมพลคีรี ได้สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2314  เดิมมีนามว่า วัดกลางคงจะเรียกกันตามเหตุผลที่ว่าวัดนี้อยู่ในที่ชุมนุมชน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2508 เขตวิสูงสีมากว้าง 25 เมตร ยาว 40 เมตร ได้ผูกพันธสีมาวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2512 มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 21 รูป สามเณร 10 รูปจากตัวเมืองแม่สอด ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 เมื่อถึงวงเวียนเข้าตัวเมืองแม่สอดให้ตรงเข้าถนนอินทรคีรี จนถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประสาทวิถี ซึ่งเป็น


เขื่อนภูมิพล


             เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งและเป็นเขื่อนเอนกประสงค์ แห่งแรกของประเทศไทย เดิมชื่อเขื่อนยันฮี ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล ลักษะของเขื่อนเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างปิดกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง154 เมตร ยาว486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร อ่างเก็บน้ำมีความจุสูงสุดในเอเชียอาคเนย์ เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในประเทศไทย และเอเชียอาคเนย์ จัดอยู่ในอันดับ 8 ของโลก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้าง เมื่อวันที่24 มิถุนายน 2504 การก่อสร้างในระยะแรกประกอบด้วย งานก่อสร้างตัวเขื่อน ระบบส่งไฟฟ้า และอาคารโรงไฟฟ้าซึ่งได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟเครื่องที่ 1-2 กำลังผลิตเครื่องละ 70,000 กิโลวัตต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เมื่อวันที่17 พฤษภาคมและ15 มิถุนายน 2507 ตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อน เมื่อวันที่17 พฤษภาคม 2507 ต่อมาได้มีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 3-6 กำลังผลิตเครื่องละ 70,000 กิโลวัตต์ และเครื่องที่7 กำลังผลิต 115,000กิโลวัตต์  สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในวันที่11 พฤษภาคม วันที่ 9 สิงหาคม 2510 วันที่ 25 ตุลาคม วันที่ 19 สิงหาคม 2512 และวันที่ 18 ตุลาคม 2525 ตามลำดับ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกไปในปี พ.ศ.2531 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงไดทำการปรับปรุงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่1-2ทำให้มีพลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเครื่องละ 6,300 กิโลวัตต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 และ พฤศจิกายน 2536 ตามลำดับส่วนการปรับปรุงเครื่องเครื่องที่3-4มีการปรับปรุงกำลัง ผลิตเท่ากันกับเครื่อง ที่1-2แล้วเสร็จสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และสิงหาคม2540 ตามลำดับ  นอกจากนี้ ในปี 2534 กฟผได้ติดตั้งกระแสไฟฟ้าเครื่องที่ 8 แบบสูบกลับ ขนาดกำลังผลิต 171,000 กิโลวัตต์ และก่อสร้างเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในเดือน มกราคม2539 ทำให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนภูมิพลมีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสิ้น743,800กิโลวัตต์
    สำหรับบริเวณโดยรอบเขื่อนภูมิพลนั้นถือเป็นแหล่งพักผ่อน และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด นอกจากนั้นยังมี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สองฝั่งลำน้ำปิงเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ตื่น เป็นเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติสภาพป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ความหลากหลายของเขาหิน ลำห้วย และน้ำตก ตลอดจนการฟื้นฟูสภาพป่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยสถานที่น่าสนใจภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลนั้นได้แก่  การล่องแพและเรือ ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว การล่องแพโดยใช้เรือลากจูง หรือเดินทางด้วยเรือสำราญ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและภูมิประเทศป่าเขา ผ่านแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้แก่ พระพุทธบาทเขาหนาม เกาะวาเลนไทน์ ดอยเจ้าพ่อหลวง เขาพระพุทธบาท ถ้ำอาบนาง โบราณสถานแก่งสร้อย จนถึงดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ รวมระยะทาง 204 กิโลเมตร  สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานตาก








 
สร้างเว็บบล็อก  (Blogger)

      1.  เข้าไปที่ http://www.blogger.com/   จะเจอหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้ ดังรูป



2.  เมื่อท่านคลิกนี้ จะปรากฎดังรูปด้านล่าง


3. ให้ใส่รายละเอียดดังรูป
               -ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail)3131





               -Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง
               -Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)
               -พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
                -คลิกดำเนินต่อไป




 4.  จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน
              -คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไป หรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้       และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป
5.  จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตาม  ต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไปถึงตอนนี้คุณก็จะมีบล็อกกับกูเกิลแล้ว  อย่าลืมจดจำคือ
           
1  อีเมลล์ของ gmail


2  URL เว็บบล็อก








บทที่3
วิธีการดำเนินโครงงาน
      3.1  โปรแกรมที่ใช้ในการทำโครงงานบทที่3
            3.1.1  ปรึกษาเพื่อนในกลุ่มว่าจะทำโครงงานเรื่องอะไร
            3.1.2  แยกจังหวัดให้แต่ละคน
            3.1.3  ให้แต่ละคนหาข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดที่ตัวเองได้
            3.1.4  โปรแกรม Microsoft Word 2007
            3.1.5  save แล้วส่งให้เพื่อนทาง facebook.comเพื่อจะให้เพื่อนเอาไปทำต่อที่เว็บ Microsoft Word 2007
            3.1.6   เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/ 
            3.1.7  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.gmail.com ,   www.google.com
            3.1.8  พอทำเส็ดก็นำไปให้ครุตรวจเพื่อจะได้ปริ้นเป็นรูปเล่ม
            3.1.9  และนำมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
4.1) ผลการดำเนินงานคณะผู้จัดทำสามารถดำเนินการได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยการวางแผนวิธีดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และมีการนำเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการทำโครงงาน เช่น
1.การรวบรวมข้อมูล “สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ” จากทางอินเตอร์เน็ต
2.การศึกษาวิธีการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้เป็นสื่อในการเผยแพร่ความรู้เรื่อง “สถานที่ถ่องเที่ยวภาคเหนือจากทางอินเตอร์เน็ต

บทที่ 5
สรุป   อภิปรายและข้อเสนอแนะ
การจำทำโครงงานโรคความอ้วน นี้สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
       1.   เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ
       2.  เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
       3.  เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
  วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา  
            1. โปรแกรม Microsoft Word 2007
            2.  เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/  
            3.   เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com ,   www.google.com
สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
     จากการดำเนินงานโครงงานการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ   ในครั้งนี้สรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
       ทำให้ได้เว็บบล็อกเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ  เป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้เกิดประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป   ส่งเสริมให้ทุกคนมีสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ ควรมีการจัดทาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้
 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
        1.  เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา
        2.  สมาชิกในกลุ่มบางคนให้ความร่วมมือน้อยเพราะไม่ค่อยใส่ใจกับโครงงานนักจึงทำให้เสียเวลาและทำให้โครงงานเสร็จช้า